ระบบโซลาร์เซลล์สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบหลัก แต่ละแบบมีคุณสมบัติและข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้:
1. ระบบ ON GRIDเป็นระบบที่ผลิตไฟฟ้าและจ่ายให้เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทันทีเมื่อมีแสงแดด
หากผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอ ระบบจะดึงไฟฟ้าจากการไฟฟ้ามาใช้งานร่วมด้วย
เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัย เนื่องจากสามารถขายไฟฟ้าคืนให้การไฟฟ้าได้ในกรณีที่ผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการ
ข้อดี:- คืนทุนเร็ว
- รองรับการขายไฟฟ้าคืนให้การไฟฟ้า
ข้อเสีย:- ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในช่วงกลางคืนหรือวันที่ไม่มีแดด
- เมื่อไฟฟ้าดับ อินเวอร์เตอร์จะหยุดทำงาน
2. ระบบ OFF GRIDเป็นระบบผลิตไฟฟ้าแบบอิสระ โดยไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากการไฟฟ้า
เหมาะสำหรับพื้นที่ห่างไกลหรือที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง
ข้อดี:- สามารถใช้งานได้ในทุกพื้นที่
- ไม่พึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอก
ข้อเสีย:- ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง เนื่องจากต้องใช้แบตเตอรี่ ซึ่งมีราคาสูง
- คืนทุนช้ากว่าระบบ ON GRID
- อาจขาดแคลนพลังงานในช่วงฤดูฝนหรือช่วงที่แสงแดดน้อย
3. ระบบ HYBRIDเป็นระบบที่ผสมผสานระหว่าง ON GRID และ OFF GRID ทำให้ระบบมีความเสถียรสูงสุด ใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่ชาร์จด้วยโซลาร์เซลล์ และสามารถดึงไฟฟ้าจากการไฟฟ้ามาใช้ในกรณีที่พลังงานไม่เพียงพอ สามารถปรับแต่งการจ่ายไฟให้ตรงตามความต้องการได้
ข้อดี:- มีความเสถียรสูง
- รองรับการใช้งานหลากหลายสถานการณ์
ข้อเสีย:- ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง เนื่องจากแบตเตอรี่และอินเวอร์เตอร์แบบ Hybrid มีราคาสูง
- ต้องใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากการไฟฟ้า ซึ่งยังมีต้นทุนสูงในปัจจุบัน